เฟส พลัส บาย ยามาโนะ คือซาลอนนวดหน้าแบรนด์ญี่ปุ่น จัดตั้งขึ้นโดยบริษัท “ยามาโนะ” แบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศญี่ปุ่นวางจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 3,000 สาขา ปัจจุบันยามาโนะโด่งดังในธุรกิจความงามของประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 90 ปี จากจุดเริ่มต้นเมื่อปีค.ศ. 1923 ประเทศญี่ปุ่นได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ถูกบันทึกไว้บนประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ไอโกะ ยามาโนะ ได้เห็นโศกนาตกรรมดังกล่าว และเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอได้สังเกตเห็นว่า ผู้หญิงถึงแม้จะประสบภัยพิบัติเพียงใด แต่หลังจากที่ลุกขึ้นมาได้สิ่งแรก ที่พวกเธอพยายามตามหาก็คือ กระจกเงา เพื่อดูใบหน้าตาของตนเอง นี่คือภาพจำของไอโกะซังในวัยเยาว์ ที่มองเห็นว่า ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม พวกเธอก็ยังคงคำนึงถึงรูปลักษณ์และความสวยงามของตนเองอยู่เสมอ นี่คือจุดเริ่มต้นของธุรกิจความงามที่นำพาให้ร้านซาลอน เติบโตและกลายเป็นร้านนวดหน้าที่มีความเชี่ยวชาญ

จนคนญี่ปุ่นยกย่องให้เธอเป็นผู้หญิงประวัติศาสตร์ความงามจวบจนทุกวันนี้ ไอโกะ ยามาโนะ ริเริ่มธุรกิจโดยเปิดร้านทำผม ผู้หญิงแนวคิดก้าวหน้า ผู้ลุกขึ้นมาทำธุรกิจ ซึ่งเธอคือก็คนที่คิดค้นวิธีดัดผม เป็นคนแรกในประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นจึงเริ่มขยายธุรกิจมาให้บริการดูแลผิวหน้า และได้คิดค้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ และก่อตั้งโรงงานผลิตสินค้าทั้งหมดของยามาโนะ ที่ควบคุมเองรวมถึงได้เปิดโรงเรียนวิชาชีพและมหาวิทยาลัยเฉพาะทาง ด้านความงาม (Yamano College of Aesthetics) ที่มีชื่อเสียงซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงโตเกียว สอนด้านการแต่งหน้า นวดหน้า ทำผม วัฒนธรรมญี่ปุ่นตามประเพณีโบราณ เป็นต้น

Yamano College of Aesthetics คือสถาบันการศึกษาด้านความงามซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยรัฐบาลญี่ปุ่นและสามารถออกใบรับรองให้นักศึกษา นำไปประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับความงามต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง “ผู้หญิงจะสวยหรือดูดีนั้นต้องประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบ คือ เสื้อผ้า หน้า ผม ร่างกาย และจิตใจ” – Aiko Yamano

ปัจจุบัน Yamano ดำเนินกิจการโดยทายาทตระกูลยามาโนะ คือ มิกิโอะ ยามาโนะ หลานชายของไอโกะ ผู้รับช่วงต่อด้านการผู้บริหารธุรกิจด้านเครื่องสำอาง และซาลอนนวดหน้า ผู้สืบทอดปณิธานทางความงามของแบรนด์และมุ่งหวังให้ผู้หญิงเชื้อชาติอื่นๆ ได้รู้จักแบรนด์ยามาโนะ วิถีความงามตามธรรมชาติ ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานเพิ่มมากขึ้น เขาผู้นี้คือผู้ที่นำอำพันมาศึกษา ตั้งแต่ปีค.ศ. 2000 หลังจากที่เดินทางไปประเทศรัสเซีย และได้พบว่ามียาทาแผลที่มีส่วนผสมจากสารสกัดอำพัน ที่ช่วยในเรื่องการสมานแผล

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาให้มิกิโอะซัง มีความสนใจในอำพันเป็นพิเศษ จึงนำอำพันกลับมาวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียว ยิ่งวิจัยยิ่งค้นพบความพิเศษ จนในที่สุดก็พัฒนามาเป็นเอกลักษณ์ของยามาโนะ ความโดดเด่นทั้งในด้านของโคลนและอำพันคือความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน จึงทำให้มิกิโอะซังริเริ่มแผนขยายธุรกิจออกนอกประเทศ โดยใช้ซาลอนนวดหน้าเป็นสื่อกลางที่จะทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจในวิธีการดูแลผิวของชาวญี่ปุ่น ตอนนี้ที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 3 ต่อจาก สิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่ เฟส พลัส บาย ยามาโนะได้เข้ามาเปิดกิจการและยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติม ไปในประเทศอื่นๆ อีกในอนาคต